สีทาบ้านเป็นหนึ่งในหลายๆ ส่วนประกอบที่ทำให้บ้านสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างสีสันและเพิ่มเติมความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย สีบ้านยิ่งสวยก็ยิ่งทำให้โดดเด่น ดึงดูดสายตาผู้คน พร้อมทำให้บ้านเกิดฮวงจุ้ยที่ดีจนสามารถเรียกความโชคดีเข้าบ้านได้อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า? เพียงแค่เรื่องสีทาบ้านอาจทำให้คุณต้องคิดหนักจนต้องถึงขั้นวางแผนใหม่ เพราะนอกจากเรื่องสีสันที่ถูกใจเจ้าของบ้านแล้ว ยังมีเรื่องที่ควรรู้อีกหลากหลายเรื่อง เช่น ต้องมีประโยชน์มากกว่าความสวยงาม ทนแดด ทนฝน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทำความสะอาดง่าย สีไม่ซีดจางหรือแตกลายงาก่อนเวลา เพราะอย่าลืมว่าอากาศของประเทศไทยค่อนข้างมีผลต่อสีทาบ้านเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาสีสวยๆ มาทาบ้าน ลองมาดูรายละเอียดของการใช้สีดูก่อนจะได้ไม่ต้องพลาดในภายหลัง
เรื่องควรรู้! ก่อนเลือกสีทาบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศได้ตรงตามแบบที่ต้องการ
- เลือกสีทาบ้านให้เหมาะสม
ก่อนจะเลือกสีทาบ้านคุณต้องรู้ก่อนว่าใช้งานในด้านใดบ้าง เพื่อให้คุณไปร้านสีแล้วเลือกกลับมาอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งเรื่องที่คุณควรคำนึงถึง คือ สีทาบ้านที่ต้องการใช้เป็นสีภายในหรือสีภายนอก เพราะสีทั้ง 2 แบบนี้ให้ความทนทานที่แตกต่งกัน ถ้าเป็นสีภายในความทนทานย่อมมีต่ำกว่าสีภายนอก เพราะสีชนิดทาภายนอกต้องทนแดดและทนฝนได้ดีมาก พร้อมรับมือต่อทุกสภาพอากาศ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแตกลายงาและทำให้สีติดทนอย่างยาวนาน ส่วนสีภายในจะเน้นที่การดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นเชื้อรา และกลิ่นสีก็ต้องไม่แรงจนเกินไป
- ชนิดของสีทาบ้าน
ชนิดของสีทาบ้านมีด้วยกันหลายประเภท ถูกผลิตมาเพื่อให้ใช้งานอย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ พร้อมให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยแยกออกเป็นดังนี้
- สีน้ำอะครีลิก เป็นสีที่มีทั้งแบบใช้งานภายในและภายนอก เพียงแค่ผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อละลายเนื้อสีก็สามารถทาสีทาบ้านได้ทันที ใช้งานได้ดีกับทุกพื้นผิว แห้งเร็ว และถ้าเป็นสีทาภายในกลิ่นจะไม่แรงจนเกินไป ส่วนสีอะคริลิกทาภายนอกจะมีการผสมสารพิเศษเพิ่มเติม เพื่อทำให้สีติดทนนานมากยิ่งขึ้นและมีคุณสมบัติในเรื่องทนฝนและทนแดดมากกว่าสีทาภายใน แต่ที่สีอะครีลิกทั้ง 2 แบบ มีเหมือนกัน คือ ไม่หลุดล่อน สีไม่ซีดจางเร็ว ทาบนพื้นผิวต่างๆ แล้วเรียบเนียนได้ง่าย และกลิ่นก็ไม่ฉุนเท่ากับสีประเภทอื่น
- สีน้ำมัน เป็นสีที่มีใช้กันมาอย่างยาวนาน มีคุณสมบัติของการเป็นสีทาบ้านที่ให้ความมันวาว เพิ่มความสวยงามให้กับสีบ้านได้ดี แต่มีข้อเสียที่กลิ่นค่อนข้างฉุนมากและแห้งช้าจึงไม่เหมาะสมกับการเป็นสีภายใน เพราะสารละลายสีจะเป็นน้ำมันและทินเนอร์ที่ทำให้กลิ่นค่อนข้างรุนแรงมาก จึงนิยมใช้ทาสีภายนอก, สีรั้ว และสีโลหะ
- สีทาซีเมนต์ เป็นสีที่ผ่านการผลิตและการผสมสีแบบพิเศษ เมื่อทาลงบนผนังหรือพื้นซีเมนต์แล้วสร้างความโดดเด่นให้กับส่วนที่ทาทันที! คุณสมบัติที่น่าสนใจของสีทาบ้านชนิดนี้คือยึดเกาะซีเมนต์ได้ดี สีจึงไม่ซีดจาง ไม่พองและไม่แตกลายงาเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือสีชนิดนี้ไม่มีกลิ่น ไม่ทำลายสุขภาพ ให้ความสวยที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าสีชนิดอื่นๆ และช่วยปกปิดรอยปูนแตกตามจุดต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว
- สีรองพื้น เป็นสีที่ช่วยดูดซับความชื้นจากผนังปูนก่อนลงสีจริง เพื่อป้องกันไม่ให้สีทาบ้านสีจริงพองตัว, ป้องกันสีด่าง, เป็นเชื้อราง่าย และทำให้สียึดเกาะผนังปูนได้ดีกว่าเดิม พร้อมทำให้สีหลักมีอายุที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังมีสีรองพื้นปูนเก่าที่แยกออกมา ช่วยทำให้การทาสีไม่ด่าง ไม่ต้องใช้สีหลักมากนักผนังก็เรียบเนียน ป้องกันคราบสกปรกก่อนการลงสีจริงได้อีกด้วย
- สีเคลือบเงา เป็นสีที่ใช้เคลือบวัสดุต่างๆ ให้ขึ้นเงา ส่วนใหญ่จะใช้งานกับพื้นไม้ เพื่อรักษาเนื้อไม้ให้มันวาวเงางามตลอดเวลา ไม่เป็นคราบ เมื่อสกปรกก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและอยู่ได้ยาวนาน
- สีกันสนิม เป็นสีทาโลหะหรือโครงเหล็กต่างๆ ยึดเกาะพื้นผิวของวัสดุดี ไม่หลุดล่อนออกมาง่ายจนเกินไป และไม่ทำให้เกิดสนิมพร้อมให้สีที่ยึดเกาะกับโลหะได้แน่นมากกว่าเดิม
- ราคาและขนาดของสีทาบ้านแต่ละแบบ
ราคาของสีทาบ้านและขนาดของการใช้งานมีแตกต่างกัน สามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ สีทาบ้านชนิดทำสำเร็จ ผ่านการบรรจุถังมาแล้วเป็นอย่างดี โดยมีแบบสีให้เลือกตามความต้องการของลูกค้ากับสีที่ถูกสั่งผสมใหม่ขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งในแบบสั่งผสมเองราคาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของทางผู้ผลิต ส่วนแบบสำเร็จรูปราคาจะค่อนข้างเป็นมาตรฐานมากกว่า คือ
- สีน้ำมันขนาด ¼ GL ราคาตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป, ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และขนาด 1GL ในตัวสูตรที่ต่างกันราคาอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปกติเล็กน้อย
- สีน้ำทาภายในขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 800 บาทขึ้น, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป และขนาด 5 GL ราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- สีน้ำทาภายนอกขนาด ¼ GL ราคาตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป, ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป
- สีน้ำมันเคลือบราคาตั้งแต่ 900 บาทขึ้นไป
- สีรองพื้นปูนเก่าขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,200 บาทขึ้นไป และขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- สีรองพื้นปูนใหม่ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,900 บาทขึ้นไป และขนาด 5GL ราคา 3,000 บาทขึ้นไป
สีทาบ้านในปัจจุบันมีคุณภาพและได้มาตรฐานมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยทำให้เกิดความยืดหยุ่นในเม็ดสี จนมีคุณสมบัติที่ทนทาน ปกปิดรอยแตกร้าว และผสมผสานให้สีสันสวยงามตามแบบที่เจ้าของบ้านต้องการ ส่วนในเรื่องของราคาก็ประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับการได้สีสวยตรงตามแบบที่ต้องการและราคาถูกใจแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว
สีทาบ้านเป็นหนึ่งในหลายๆ ส่วนประกอบที่ทำให้บ้านสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างสีสันและเพิ่มเติมความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย สีบ้านยิ่งสวยก็ยิ่งทำให้โดดเด่น ดึงดูดสายตาผู้คน พร้อมทำให้บ้านเกิดฮวงจุ้ยที่ดีจนสามารถเรียกความโชคดีเข้าบ้านได้อีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า? เพียงแค่เรื่องสีทาบ้านอาจทำให้คุณต้องคิดหนักจนต้องถึงขั้นวางแผนใหม่ เพราะนอกจากเรื่องสีสันที่ถูกใจเจ้าของบ้านแล้ว ยังมีเรื่องที่ควรรู้อีกหลากหลายเรื่อง เช่น ต้องมีประโยชน์มากกว่าความสวยงาม ทนแดด ทนฝน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทำความสะอาดง่าย สีไม่ซีดจางหรือแตกลายงาก่อนเวลา เพราะอย่าลืมว่าอากาศของประเทศไทยค่อนข้างมีผลต่อสีทาบ้านเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาสีสวยๆ มาทาบ้าน ลองมาดูรายละเอียดของการใช้สีดูก่อนจะได้ไม่ต้องพลาดในภายหลัง
เรื่องควรรู้! ก่อนเลือกสีทาบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศได้ตรงตามแบบที่ต้องการ
- เลือกสีทาบ้านให้เหมาะสม
ก่อนจะเลือกสีทาบ้านคุณต้องรู้ก่อนว่าใช้งานในด้านใดบ้าง เพื่อให้คุณไปร้านสีแล้วเลือกกลับมาอย่างเหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งเรื่องที่คุณควรคำนึงถึง คือ สีทาบ้านที่ต้องการใช้เป็นสีภายในหรือสีภายนอก เพราะสีทั้ง 2 แบบนี้ให้ความทนทานที่แตกต่งกัน ถ้าเป็นสีภายในความทนทานย่อมมีต่ำกว่าสีภายนอก เพราะสีชนิดทาภายนอกต้องทนแดดและทนฝนได้ดีมาก พร้อมรับมือต่อทุกสภาพอากาศ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแตกลายงาและทำให้สีติดทนอย่างยาวนาน ส่วนสีภายในจะเน้นที่การดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นเชื้อรา และกลิ่นสีก็ต้องไม่แรงจนเกินไป
- ชนิดของสีทาบ้าน
ชนิดของสีทาบ้านมีด้วยกันหลายประเภท ถูกผลิตมาเพื่อให้ใช้งานอย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ พร้อมให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยแยกออกเป็นดังนี้
- สีน้ำอะครีลิก เป็นสีที่มีทั้งแบบใช้งานภายในและภายนอก เพียงแค่ผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อละลายเนื้อสีก็สามารถทาสีทาบ้านได้ทันที ใช้งานได้ดีกับทุกพื้นผิว แห้งเร็ว และถ้าเป็นสีทาภายในกลิ่นจะไม่แรงจนเกินไป ส่วนสีอะคริลิกทาภายนอกจะมีการผสมสารพิเศษเพิ่มเติม เพื่อทำให้สีติดทนนานมากยิ่งขึ้นและมีคุณสมบัติในเรื่องทนฝนและทนแดดมากกว่าสีทาภายใน แต่ที่สีอะครีลิกทั้ง 2 แบบ มีเหมือนกัน คือ ไม่หลุดล่อน สีไม่ซีดจางเร็ว ทาบนพื้นผิวต่างๆ แล้วเรียบเนียนได้ง่าย และกลิ่นก็ไม่ฉุนเท่ากับสีประเภทอื่น
- สีน้ำมัน เป็นสีที่มีใช้กันมาอย่างยาวนาน มีคุณสมบัติของการเป็นสีทาบ้านที่ให้ความมันวาว เพิ่มความสวยงามให้กับสีบ้านได้ดี แต่มีข้อเสียที่กลิ่นค่อนข้างฉุนมากและแห้งช้าจึงไม่เหมาะสมกับการเป็นสีภายใน เพราะสารละลายสีจะเป็นน้ำมันและทินเนอร์ที่ทำให้กลิ่นค่อนข้างรุนแรงมาก จึงนิยมใช้ทาสีภายนอก, สีรั้ว และสีโลหะ
- สีทาซีเมนต์ เป็นสีที่ผ่านการผลิตและการผสมสีแบบพิเศษ เมื่อทาลงบนผนังหรือพื้นซีเมนต์แล้วสร้างความโดดเด่นให้กับส่วนที่ทาทันที! คุณสมบัติที่น่าสนใจของสีทาบ้านชนิดนี้คือยึดเกาะซีเมนต์ได้ดี สีจึงไม่ซีดจาง ไม่พองและไม่แตกลายงาเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือสีชนิดนี้ไม่มีกลิ่น ไม่ทำลายสุขภาพ ให้ความสวยที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าสีชนิดอื่นๆ และช่วยปกปิดรอยปูนแตกตามจุดต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว
- สีรองพื้น เป็นสีที่ช่วยดูดซับความชื้นจากผนังปูนก่อนลงสีจริง เพื่อป้องกันไม่ให้สีทาบ้านสีจริงพองตัว, ป้องกันสีด่าง, เป็นเชื้อราง่าย และทำให้สียึดเกาะผนังปูนได้ดีกว่าเดิม พร้อมทำให้สีหลักมีอายุที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังมีสีรองพื้นปูนเก่าที่แยกออกมา ช่วยทำให้การทาสีไม่ด่าง ไม่ต้องใช้สีหลักมากนักผนังก็เรียบเนียน ป้องกันคราบสกปรกก่อนการลงสีจริงได้อีกด้วย
- สีเคลือบเงา เป็นสีที่ใช้เคลือบวัสดุต่างๆ ให้ขึ้นเงา ส่วนใหญ่จะใช้งานกับพื้นไม้ เพื่อรักษาเนื้อไม้ให้มันวาวเงางามตลอดเวลา ไม่เป็นคราบ เมื่อสกปรกก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและอยู่ได้ยาวนาน
- สีกันสนิม เป็นสีทาโลหะหรือโครงเหล็กต่างๆ ยึดเกาะพื้นผิวของวัสดุดี ไม่หลุดล่อนออกมาง่ายจนเกินไป และไม่ทำให้เกิดสนิมพร้อมให้สีที่ยึดเกาะกับโลหะได้แน่นมากกว่าเดิม
- ราคาและขนาดของสีทาบ้านแต่ละแบบ
ราคาของสีทาบ้านและขนาดของการใช้งานมีแตกต่างกัน สามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ สีทาบ้านชนิดทำสำเร็จ ผ่านการบรรจุถังมาแล้วเป็นอย่างดี โดยมีแบบสีให้เลือกตามความต้องการของลูกค้ากับสีที่ถูกสั่งผสมใหม่ขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งในแบบสั่งผสมเองราคาจะขึ้นอยู่กับการประเมินของทางผู้ผลิต ส่วนแบบสำเร็จรูปราคาจะค่อนข้างเป็นมาตรฐานมากกว่า คือ
- สีน้ำมันขนาด ¼ GL ราคาตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป, ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และขนาด 1GL ในตัวสูตรที่ต่างกันราคาอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปกติเล็กน้อย
- สีน้ำทาภายในขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 800 บาทขึ้น, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป และขนาด 5 GL ราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- สีน้ำทาภายนอกขนาด ¼ GL ราคาตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป, ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป
- สีน้ำมันเคลือบราคาตั้งแต่ 900 บาทขึ้นไป
- สีรองพื้นปูนเก่าขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,200 บาทขึ้นไป และขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- สีรองพื้นปูนใหม่ขนาด 1GL ราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป, ขนาด 5GL ราคาตั้งแต่ 1,900 บาทขึ้นไป และขนาด 5GL ราคา 3,000 บาทขึ้นไป
สีทาบ้านในปัจจุบันมีคุณภาพและได้มาตรฐานมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยทำให้เกิดความยืดหยุ่นในเม็ดสี จนมีคุณสมบัติที่ทนทาน ปกปิดรอยแตกร้าว และผสมผสานให้สีสันสวยงามตามแบบที่เจ้าของบ้านต้องการ ส่วนในเรื่องของราคาก็ประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับการได้สีสวยตรงตามแบบที่ต้องการและราคาถูกใจแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว