ฤดูร้อนเมืองไทย ไม่มีใครทนไหว เพราะแดดเมืองไทย ร้อนจนชวนใจให้หงุดหงิด แทบจะทำให้หลายๆคนเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน เพื่อไม่ต้องออกไปปะทะกับแดดร้อนๆ แม้บางครั้งเมื่อเราเลือกที่จะอยู่บ้าน แต่ก็ไม่วายที่จะต้องพบเจอกับอุณหภูมิภายในบ้านที่ร้อนไม่ต่างจากภายนอก หลายๆคนจึงเลือกที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ สารพัดเครื่องที่จะช่วยให้บ้านของเราเย็นขึ้น แต่ก็น่าเศร้าที่ต้องพบกับค่าไฟที่สูงมากขึ้น ดังนั้น เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 วิธีที่ช่วยคลายร้อนให้กับบ้านของคุณ โดยที่ไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศ แถมประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
1: สวมใส่ผ้าคอตตอนเวลาอยู่บ้าน ช่วยคลายความร้อน
ผ้าคอตตอน เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติช่วยคลายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังซึมซับเหงื่อได้ดี ผ้าคอตตอนจึงเป็นผ้าอันดับต้นที่คนจะนึกถึง และมักสวมใส่กันในหน้าร้อน เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายกาย สบายใจ ได้แน่นอน
2: ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ไม้ได้ใช้ออก
การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกจะช่วยให้ลดพลังงานความร้อนของตัวเครื่องไฟฟ้าและอุณหภูมิภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่อให้เราไม่ได้ใช้งาน แต่หากเราเสียบปลั๊กไว้ กระแสไฟก็จะยังคงวิ่งอยู่ ซึ่งส่วนนี้จะทำให้เรามีค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ
3: ใช้แสงไฟธรรมชาติ เพราะความร้อนจากหลอดไฟ จะเพิ่มอุณหภูมิภายในห้อง
แสงไฟที่เทียบได้กับแสงธรรมชาติ คือแบบ warmlight แนะนำให้ใช้หลอดไฟแบบตะเกียบ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และจะช่วยให้ความร้อนในห้องลดลงด้วย นอกจากนี้ควรปิดดวงไฟที่ไม่ใช้ เพราะหลอดไฟเป็นอีกหนึ่งแหล่งความร้อนภายในบ้าน
4: อย่าทำอาหารภายในบ้าน
ควรหลีกเลี่ยงการทำอาหาร พวกอาหารปิ้งย่างที่ต้องใช้ความร้อนสูงต่อเนื่องนานๆ เพราะบริเวณครัวข้างในบ้านที่เป็นส่วนปิดทึบ หากต้องการทำอาหาร แนะนำให้ทำในที่โล่งแจ้ง เช่น ริมบ้านหรือหลังบ้าน เพื่อลดความร้อนภายในบ้าน และยังช่วยลดกลิ่นอีกด้วย
5: ปิดผ้าม่านกันความร้อนช่วงเวลากลางวัน
การปิดผ้าม่านแบบ blackout จะช่วยกันแสงแดดได้ 90-100% ในขณะที่สามารถถ่ายเทอากาศและมองเห็นภายนอกได้ ไม่มืดทึบจนเกินไป แถมยังมีข้อดี ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี UV และความร้อน
6: เลือกใช้หลังคาสีอ่อนและติดชนวนกันความร้อนให้หลังคา
วิธีนี้จะช่วยกันความร้อนที่เข้ามาผ่านหลังคาได้ดีขึ้น หรือเลือกหลังคาและฝ้าภายในที่ช่วยสะท้อนและป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน และติดตั้งชนวนกันความร้อน ก็จะช่วยลดอุณหภูมิร้อนในบ้านได้อีกวิธีหนึ่ง
7: พัดลมช่วยได้ เพราะต่อให้เปิดพัดลมหลายๆตัวพร้อมกันก็ยังประหยัดไฟกว่าแอร์อยู่ดี
การเปิดพัดลมหลายๆตัวพร้อมกัน ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดแอร์ ฉะนั้นทางที่ดีหากคุณอยากประหยัดค่าไฟแนะนำให้เปิดพัดลม หรือเลือกซื้อพัดลมแบบติดเพดาน เพื่อช่วยให้อากาศในห้องได้ถ่ายเททั่วถึงมากขึ้น โดยไม่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงมากนัก
8: ปลูกต้นไม้ ใช้เวลานานหน่อย แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอน
การปลูกต้นไม้ แม้จะใช้เวลานานที่จะช่วยให้ต้นไม้ปกคลุมบริเวณบ้าน แต่ต้นไม้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดความร้อนและเพิ่มออกซิเจนในอากาศ ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น เทียบได้กับการมีเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน เลยทีเดียว (เท่ากับ 12,000 BTU) ดังนั้น หากปลูกต้นไม้ไว้รอบๆบ้าน ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มแอร์ธรรมชาติให้กับบ้านของคุณ
9: ติดฟิล์มกันความร้อนให้หน้าต่าง
กระจกหรือหน้าต่างเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ความร้อนจะเข้ามาได้ง่ายที่สุด การติดฟิล์มตัดแสงหรือฟิล์มกันความร้อนจะช่วยลดความร้อนภายในบ้านของคุณได้
10: เลือกใช้สีตกแต่งบ้านกันความร้อนได้
แนะนำให้คุณเลือกใช้สีตกแต่งบ้านที่มีชนวนกันความร้อน หรือมีคุณสมบัติ UV Protection สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ เพราะวิธีจะช่วยทำให้ผู้อาศัยภายในบ้านรู้สึกเย็นและผ่อนคลาย แถมยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปกป้องอุณหภูมิความร้อนจากภายนอกได้อย่างถาวร
ฤดูร้อนเมืองไทย ไม่มีใครทนไหว เพราะแดดเมืองไทย ร้อนจนชวนใจให้หงุดหงิด แทบจะทำให้หลายๆคนเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน เพื่อไม่ต้องออกไปปะทะกับแดดร้อนๆ แม้บางครั้งเมื่อเราเลือกที่จะอยู่บ้าน แต่ก็ไม่วายที่จะต้องพบเจอกับอุณหภูมิภายในบ้านที่ร้อนไม่ต่างจากภายนอก หลายๆคนจึงเลือกที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ สารพัดเครื่องที่จะช่วยให้บ้านของเราเย็นขึ้น แต่ก็น่าเศร้าที่ต้องพบกับค่าไฟที่สูงมากขึ้น ดังนั้น เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 วิธีที่ช่วยคลายร้อนให้กับบ้านของคุณ โดยที่ไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศ แถมประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
1: สวมใส่ผ้าคอตตอนเวลาอยู่บ้าน ช่วยคลายความร้อน
ผ้าคอตตอน เป็นผ้าที่มีคุณสมบัติช่วยคลายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังซึมซับเหงื่อได้ดี ผ้าคอตตอนจึงเป็นผ้าอันดับต้นที่คนจะนึกถึง และมักสวมใส่กันในหน้าร้อน เพราะมันจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายกาย สบายใจ ได้แน่นอน
2: ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ไม้ได้ใช้ออก
การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกจะช่วยให้ลดพลังงานความร้อนของตัวเครื่องไฟฟ้าและอุณหภูมิภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่อให้เราไม่ได้ใช้งาน แต่หากเราเสียบปลั๊กไว้ กระแสไฟก็จะยังคงวิ่งอยู่ ซึ่งส่วนนี้จะทำให้เรามีค่าไฟเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ
3: ใช้แสงไฟธรรมชาติ เพราะความร้อนจากหลอดไฟ จะเพิ่มอุณหภูมิภายในห้อง
แสงไฟที่เทียบได้กับแสงธรรมชาติ คือแบบ warmlight แนะนำให้ใช้หลอดไฟแบบตะเกียบ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และจะช่วยให้ความร้อนในห้องลดลงด้วย นอกจากนี้ควรปิดดวงไฟที่ไม่ใช้ เพราะหลอดไฟเป็นอีกหนึ่งแหล่งความร้อนภายในบ้าน
4: อย่าทำอาหารภายในบ้าน
ควรหลีกเลี่ยงการทำอาหาร พวกอาหารปิ้งย่างที่ต้องใช้ความร้อนสูงต่อเนื่องนานๆ เพราะบริเวณครัวข้างในบ้านที่เป็นส่วนปิดทึบ หากต้องการทำอาหาร แนะนำให้ทำในที่โล่งแจ้ง เช่น ริมบ้านหรือหลังบ้าน เพื่อลดความร้อนภายในบ้าน และยังช่วยลดกลิ่นอีกด้วย
5: ปิดผ้าม่านกันความร้อนช่วงเวลากลางวัน
การปิดผ้าม่านแบบ blackout จะช่วยกันแสงแดดได้ 90-100% ในขณะที่สามารถถ่ายเทอากาศและมองเห็นภายนอกได้ ไม่มืดทึบจนเกินไป แถมยังมีข้อดี ช่วยป้องกันได้ทั้งรังสี UV และความร้อน
6: เลือกใช้หลังคาสีอ่อนและติดชนวนกันความร้อนให้หลังคา
วิธีนี้จะช่วยกันความร้อนที่เข้ามาผ่านหลังคาได้ดีขึ้น หรือเลือกหลังคาและฝ้าภายในที่ช่วยสะท้อนและป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน และติดตั้งชนวนกันความร้อน ก็จะช่วยลดอุณหภูมิร้อนในบ้านได้อีกวิธีหนึ่ง
7: พัดลมช่วยได้ เพราะต่อให้เปิดพัดลมหลายๆตัวพร้อมกันก็ยังประหยัดไฟกว่าแอร์อยู่ดี
การเปิดพัดลมหลายๆตัวพร้อมกัน ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดแอร์ ฉะนั้นทางที่ดีหากคุณอยากประหยัดค่าไฟแนะนำให้เปิดพัดลม หรือเลือกซื้อพัดลมแบบติดเพดาน เพื่อช่วยให้อากาศในห้องได้ถ่ายเททั่วถึงมากขึ้น โดยไม่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงมากนัก
8: ปลูกต้นไม้ ใช้เวลานานหน่อย แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอน
การปลูกต้นไม้ แม้จะใช้เวลานานที่จะช่วยให้ต้นไม้ปกคลุมบริเวณบ้าน แต่ต้นไม้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดความร้อนและเพิ่มออกซิเจนในอากาศ ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น เทียบได้กับการมีเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน เลยทีเดียว (เท่ากับ 12,000 BTU) ดังนั้น หากปลูกต้นไม้ไว้รอบๆบ้าน ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มแอร์ธรรมชาติให้กับบ้านของคุณ
9: ติดฟิล์มกันความร้อนให้หน้าต่าง
กระจกหรือหน้าต่างเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ความร้อนจะเข้ามาได้ง่ายที่สุด การติดฟิล์มตัดแสงหรือฟิล์มกันความร้อนจะช่วยลดความร้อนภายในบ้านของคุณได้
10: เลือกใช้สีตกแต่งบ้านกันความร้อนได้
แนะนำให้คุณเลือกใช้สีตกแต่งบ้านที่มีชนวนกันความร้อน หรือมีคุณสมบัติ UV Protection สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ เพราะวิธีจะช่วยทำให้ผู้อาศัยภายในบ้านรู้สึกเย็นและผ่อนคลาย แถมยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปกป้องอุณหภูมิความร้อนจากภายนอกได้อย่างถาวร