สีทาบ้านปัจจุบัน มีให้เลือกหลายหลายเกรด หลายราคา แถมมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจมองหาสีทาบ้าน เพื่อใช้ตกแต่งบ้านใหม่ หรือ ปรับปรุงบ้าน ต้องคิดหนัก เพราะ ไม่รู้จะเลือกยังไงดี ให้เหมาะกับบ้าน และคุ้มค่าที่สุด วันนี้ เดลูต้า มีทริคดี ๆ มาแนะนำว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อสีทาบ้าน ควรดูที่อะไรบ้าง ? รับรองเลยว่า คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน
1.เลือกสีทาบ้านตามการใช้งานจริง ยิ่งเกรดสูง ยิ่งดี
สีทาบ้านมีหลายประเภท ใช้ทาภายใน ภายนอก สีทาพื้นผิวปูน ผิวไม้ หรือผิวเหล็ก นอกจากนี้ เกรดของสี ก็มีหลายเกรด ตั้งแต่เกรด A ไปจนถึงเกรด D ที่เป็นเกรดต่ำสุด การเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ หากต้องการทาผนังบ้านภายนอก แนะนำให้ใช้สีเกรด A จะดีที่สุด เพราะ สามารถทนทานต่อแดด ฝน ได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน สีไม่หลุดร่อนง่าย แต่ถ้าภายใน อาจใช้เกรดรองลงมาก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เพราะ ภายในไม่ต้องโดดแดด หรือ ฝน แต่ควรเน้นไปที่การป้องกันเชื้อรา การเช็ดล้าง และต้องไม่มีกลิ่นหรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีสีทาบ้าน ที่ผลิตออกมาเป็นเกรดพรีเมี่ยม ชนิดกึ่งเงา ด้วยความพิเศษที่สามารถใช้ได้ทั้งภายนอก และภายใน ในสีเดียว
2.อายุการใช้งานของสีทาบ้าน ต้องติดทนนาน
จะเลือกซื้อสีทาบ้านทั้งทีให้คุ้มค่า ควรคำนึงถึงอายุการใช้งานเป็นหลัก เพราะ การจะทาสีบ้านใหม่แต่ละครั้ง คงไม่ใช่แค่ค่าสีอย่างเดียว แต่ยังมีค่าอุปกรณ์ ค่าแรงช่าง ซึ่งแน่นอนว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป หากต้องทาบ่อย ๆ เดลูต้าขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ สมมติซื้อสีเกรดเริ่มต้น ในราคา 800 บาท แต่ความคงทนอยู่ได้ประมาณ 3 ปี เฉลี่ยประมาณปีละ 267 บาท แต่หากซื้อสีเกรดสูง ๆ ยกตัวอย่าง สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์)ราคา 2,199 บาท ติดทนนาน 15 ปี เฉลี่ยประมาณปีละ 147 บาท เท่านั้น ฉะนั้น ทาสีบ้านทั้งที เลือกสีเกรดสูง คุ้มค่าชัวร์
3.ยิ่งมีเนื้อสีเยอะ ยิ่งประหยัด
เดี๋ยวนี้ สีทาบ้าน เขาไม่ธรรมดา เพราะ มีสีทาบ้านที่สามารถทาทับหน้าได้เพียงแค่ 1 รอบ ก็สามารถติดทนนานได้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าอยากประหยัด ไม่ต้องเสียเงินซื้อสีหลาย ๆ แกลลอน คุณสมบัติข้อนี้ ตอบโจทย์มาก ๆ ซึ่งสีที่มีเนื้อสีมาก จะเป็นสีที่เกรดสูง ๆ ทาได้พื้นที่มาก และทาแค่ 1 รอบ ส่วนสีที่มีเกรดกลาง ๆ จะต้องทา 2 รอบ ยิ่งสีที่เกรดต่ำสุด แม้จะถ้า 2 รอบ ก็ไม่ชัวร์ว่า สีจะติดทน สวยงามหรือเปล่า ทางที่ดี ควรใช้สีทาบ้าน ที่มีเนื้อสีเยอะ แม้จะราคาสูงกว่า แต่ได้ความคุ้มค่าเต็ม ๆ ประหยัดค่าสี ประหยัดเวลา แถมประหยัดค่าแรงช่างอีกด้วย
4.เลือกเฉดสีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และแสงภายในบ้าน
เฉดสีทาบ้าน มีให้เลือกเป็นพัน ๆ เฉด บางครั้งต้องมานั่งปวดหัวว่าจะเลือกสีไหนดี ให้บ้านออกมาสวย เดลูต้าขอแนะนำว่า หากเป็นบ้านที่สร้างใหม่ ให้คุณเลือกสีที่ชอบ และให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งที่คุณชอบ ส่วนบ้านไหนที่จะซ่อมแซม ปรับปรุง ทาสีใหม่ ให้เลือกสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ เพื่อให้สีภายในบ้าน ออกมาไปในโทนเดียวกัน เพราะหากเลือกสีผิด บ้านอาจดูมีหลากสี ลายตา ถ้าไม่ถูกใจ ต้องเสียเวลา เสียเงิน มาแก้ไขใหม่อีก ฉะนั้น เลือกสีที่ชอบและให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการหรือที่มีอยู่ จะดีที่สุด
นอกจากนี้ สีทาบ้าน ยังส่งผลต่อความสว่างภายในบ้าน ถ้าหากในห้อง หรือ ภายในบ้าน มีหน้าต่างที่แสงสามารถเข้ามาได้มาก และอยากให้ความสว่างลดน้อยลง ก็ควรเลือกใช้สีเข้ม เพื่อช่วยลดความสว่าง แต่หากถ้าห้องไหน แสงเข้ามาน้อย แนะนำให้ใช้สีโทนสว่าง เช่น สีขาว สีครีม ก็ช่วยให้ห้องดูสว่างขึ้นได้ แถมช่วยประหยัดไฟภายในบ้านอีกด้วย
5.คุ้มค่ากว่า ถ้าสีทาบ้านมีคุณสมบัติพิเศษ
สีทาบ้าน ในปัจจุบัน นอกจากจะมีหลายเฉดสีให้เลือกแล้ว ยังมีหลากหลายคุณสมบัติพิเศษให้เราได้เลือก เพื่อให้ตอบโจทย์กับบ้านของเรามากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีก็มีหลายปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อตัวเรา ไปจนถึงที่พักอาศัย การเลือกสีทาบ้าน จึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าเป็นสำคัญ ถ้าอยากได้สีที่ทาแล้วคุ้มค่า ก็ควรเลือกสีที่มีเนื้อสีเยอะ ทาทับหน้าแค่ 1 รอบ ทาแล้วติดทนนาน ไม่ต้องทาซ้ำ อยากให้ภายในบ้าน เย็นสบาย ปลอดสารอันตราย ก็ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน กลิ่นอ่อน Low VOC เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ที่นวัตกรรมสีทาบ้านในปัจจุบัน ผลิตออกมา เพื่อให้ผู้อาศัยใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น สีที่เช็ดล้างง่าย สีไม่เป็นฝุ่น ป้องกันเชื้อรา คราบด่าง ทาได้ทั้งภายนอกภายใน หรือแม้กระทั่ง สีที่ให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องโลก คือ สีที่ประหยัดพลังงานการผลิต ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
เดลูต้าขอแนะนำ สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์)
สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์) สีที่ดีที่สุดในรอบ 40 ปีของสีเดลต้า สีเกรด Ultra Premium มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษหลากหลาย ตอบโจทย์กับบ้านในยุคปัจจุบัน หากเลือกใช้แล้ว จะได้ความคุ้มค่ากลับมาชัวร์ เพราะ เป็นสีที่ทาทับหน้าเพียงแค่ 1 รอบ ก็สามารถติดทนนาน ไม่ต้องทาซ้ำ ให้เหนื่อยแรงช่าง เสียค่าแรง แถมมีเนื้อสีเยอะ ทำให้ทาได้พื้นที่มากขึ้น ลดการใช้สีน้อยลง จากเคยใช้ 10 ถัง เดลต้าชิลชิลด์ ใช้แค่ 6 ถังเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ สะท้อนความร้อน ทำให้บ้านเย็น สบาย เข้าอยู่ได้ทันที ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย Low VOC เรื่องเช็ดล้าง ไม่ต้องกังวล เช็ดล้างง่าย ได้มากกว่าแสนรอบ ก็ยังติดทนนานสูงสุดถึง 15 ปีเลยทีเดียว และยังเป็นสีที่เป็นมิตรกับโลก ประหยัดพลังงานการผลิต แถมใช้น้อยลง ก็ช่วยลดจำนวนถังสีที่เป็นขยะพลาสติกได้ด้วย เห็นไหมล่ะครับ ว่าคุ้มค่า ประหยัดแค่ไหน ถ้าเลือกใช้ สีเดลต้าชิลชิลด์
สุดท้ายนี้ ถ้าหากกำลังมองหาสีทาบ้าน เดลูต้าอยากให้ทุกคนคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสำคัญ เลือกสีทาบ้านให้ตอบโจทย์กับบ้าน ให้ความคุ้มค่า ประหยัด และมีคุณภาพ เพื่อให้สีบ้านสวย ติดทนนาน ถ้าครั้งเดียวอยู่ได้หลาย ๆ ปี ไม่ต้องทาซ้ำ ๆ จะดีที่สุดนะครับ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากได้คำปรึกษา ทักมาหาเดลูต้าได้เลยนะครับ
Line : @Deltapaint หรือ คลิกที่นี่
สีทาบ้านปัจจุบัน มีให้เลือกหลายหลายเกรด หลายราคา แถมมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจมองหาสีทาบ้าน เพื่อใช้ตกแต่งบ้านใหม่ หรือ ปรับปรุงบ้าน ต้องคิดหนัก เพราะ ไม่รู้จะเลือกยังไงดี ให้เหมาะกับบ้าน และคุ้มค่าที่สุด วันนี้ เดลูต้า มีทริคดี ๆ มาแนะนำว่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อสีทาบ้าน ควรดูที่อะไรบ้าง ? รับรองเลยว่า คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน
1.เลือกสีทาบ้านตามการใช้งานจริง ยิ่งเกรดสูง ยิ่งดี
สีทาบ้านมีหลายประเภท ใช้ทาภายใน ภายนอก สีทาพื้นผิวปูน ผิวไม้ หรือผิวเหล็ก นอกจากนี้ เกรดของสี ก็มีหลายเกรด ตั้งแต่เกรด A ไปจนถึงเกรด D ที่เป็นเกรดต่ำสุด การเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ หากต้องการทาผนังบ้านภายนอก แนะนำให้ใช้สีเกรด A จะดีที่สุด เพราะ สามารถทนทานต่อแดด ฝน ได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน สีไม่หลุดร่อนง่าย แต่ถ้าภายใน อาจใช้เกรดรองลงมาก็ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เพราะ ภายในไม่ต้องโดดแดด หรือ ฝน แต่ควรเน้นไปที่การป้องกันเชื้อรา การเช็ดล้าง และต้องไม่มีกลิ่นหรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีสีทาบ้าน ที่ผลิตออกมาเป็นเกรดพรีเมี่ยม ชนิดกึ่งเงา ด้วยความพิเศษที่สามารถใช้ได้ทั้งภายนอก และภายใน ในสีเดียว
2.อายุการใช้งานของสีทาบ้าน ต้องติดทนนาน
จะเลือกซื้อสีทาบ้านทั้งทีให้คุ้มค่า ควรคำนึงถึงอายุการใช้งานเป็นหลัก เพราะ การจะทาสีบ้านใหม่แต่ละครั้ง คงไม่ใช่แค่ค่าสีอย่างเดียว แต่ยังมีค่าอุปกรณ์ ค่าแรงช่าง ซึ่งแน่นอนว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป หากต้องทาบ่อย ๆ เดลูต้าขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ สมมติซื้อสีเกรดเริ่มต้น ในราคา 800 บาท แต่ความคงทนอยู่ได้ประมาณ 3 ปี เฉลี่ยประมาณปีละ 267 บาท แต่หากซื้อสีเกรดสูง ๆ ยกตัวอย่าง สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์)ราคา 2,199 บาท ติดทนนาน 15 ปี เฉลี่ยประมาณปีละ 147 บาท เท่านั้น ฉะนั้น ทาสีบ้านทั้งที เลือกสีเกรดสูง คุ้มค่าชัวร์
3.ยิ่งมีเนื้อสีเยอะ ยิ่งประหยัด
เดี๋ยวนี้ สีทาบ้าน เขาไม่ธรรมดา เพราะ มีสีทาบ้านที่สามารถทาทับหน้าได้เพียงแค่ 1 รอบ ก็สามารถติดทนนานได้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าอยากประหยัด ไม่ต้องเสียเงินซื้อสีหลาย ๆ แกลลอน คุณสมบัติข้อนี้ ตอบโจทย์มาก ๆ ซึ่งสีที่มีเนื้อสีมาก จะเป็นสีที่เกรดสูง ๆ ทาได้พื้นที่มาก และทาแค่ 1 รอบ ส่วนสีที่มีเกรดกลาง ๆ จะต้องทา 2 รอบ ยิ่งสีที่เกรดต่ำสุด แม้จะถ้า 2 รอบ ก็ไม่ชัวร์ว่า สีจะติดทน สวยงามหรือเปล่า ทางที่ดี ควรใช้สีทาบ้าน ที่มีเนื้อสีเยอะ แม้จะราคาสูงกว่า แต่ได้ความคุ้มค่าเต็ม ๆ ประหยัดค่าสี ประหยัดเวลา แถมประหยัดค่าแรงช่างอีกด้วย
4.เลือกเฉดสีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และแสงภายในบ้าน
เฉดสีทาบ้าน มีให้เลือกเป็นพัน ๆ เฉด บางครั้งต้องมานั่งปวดหัวว่าจะเลือกสีไหนดี ให้บ้านออกมาสวย เดลูต้าขอแนะนำว่า หากเป็นบ้านที่สร้างใหม่ ให้คุณเลือกสีที่ชอบ และให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งที่คุณชอบ ส่วนบ้านไหนที่จะซ่อมแซม ปรับปรุง ทาสีใหม่ ให้เลือกสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ เพื่อให้สีภายในบ้าน ออกมาไปในโทนเดียวกัน เพราะหากเลือกสีผิด บ้านอาจดูมีหลากสี ลายตา ถ้าไม่ถูกใจ ต้องเสียเวลา เสียเงิน มาแก้ไขใหม่อีก ฉะนั้น เลือกสีที่ชอบและให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการหรือที่มีอยู่ จะดีที่สุด
นอกจากนี้ สีทาบ้าน ยังส่งผลต่อความสว่างภายในบ้าน ถ้าหากในห้อง หรือ ภายในบ้าน มีหน้าต่างที่แสงสามารถเข้ามาได้มาก และอยากให้ความสว่างลดน้อยลง ก็ควรเลือกใช้สีเข้ม เพื่อช่วยลดความสว่าง แต่หากถ้าห้องไหน แสงเข้ามาน้อย แนะนำให้ใช้สีโทนสว่าง เช่น สีขาว สีครีม ก็ช่วยให้ห้องดูสว่างขึ้นได้ แถมช่วยประหยัดไฟภายในบ้านอีกด้วย
5.คุ้มค่ากว่า ถ้าสีทาบ้านมีคุณสมบัติพิเศษ
สีทาบ้าน ในปัจจุบัน นอกจากจะมีหลายเฉดสีให้เลือกแล้ว ยังมีหลากหลายคุณสมบัติพิเศษให้เราได้เลือก เพื่อให้ตอบโจทย์กับบ้านของเรามากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีก็มีหลายปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อตัวเรา ไปจนถึงที่พักอาศัย การเลือกสีทาบ้าน จึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าเป็นสำคัญ ถ้าอยากได้สีที่ทาแล้วคุ้มค่า ก็ควรเลือกสีที่มีเนื้อสีเยอะ ทาทับหน้าแค่ 1 รอบ ทาแล้วติดทนนาน ไม่ต้องทาซ้ำ อยากให้ภายในบ้าน เย็นสบาย ปลอดสารอันตราย ก็ควรเลือกสีที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน กลิ่นอ่อน Low VOC เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ที่นวัตกรรมสีทาบ้านในปัจจุบัน ผลิตออกมา เพื่อให้ผู้อาศัยใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น สีที่เช็ดล้างง่าย สีไม่เป็นฝุ่น ป้องกันเชื้อรา คราบด่าง ทาได้ทั้งภายนอกภายใน หรือแม้กระทั่ง สีที่ให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องโลก คือ สีที่ประหยัดพลังงานการผลิต ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
เดลูต้าขอแนะนำ สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์)
สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์) สีที่ดีที่สุดในรอบ 40 ปีของสีเดลต้า สีเกรด Ultra Premium มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษหลากหลาย ตอบโจทย์กับบ้านในยุคปัจจุบัน หากเลือกใช้แล้ว จะได้ความคุ้มค่ากลับมาชัวร์ เพราะ เป็นสีที่ทาทับหน้าเพียงแค่ 1 รอบ ก็สามารถติดทนนาน ไม่ต้องทาซ้ำ ให้เหนื่อยแรงช่าง เสียค่าแรง แถมมีเนื้อสีเยอะ ทำให้ทาได้พื้นที่มากขึ้น ลดการใช้สีน้อยลง จากเคยใช้ 10 ถัง เดลต้าชิลชิลด์ ใช้แค่ 6 ถังเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติ สะท้อนความร้อน ทำให้บ้านเย็น สบาย เข้าอยู่ได้ทันที ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย Low VOC เรื่องเช็ดล้าง ไม่ต้องกังวล เช็ดล้างง่าย ได้มากกว่าแสนรอบ ก็ยังติดทนนานสูงสุดถึง 15 ปีเลยทีเดียว และยังเป็นสีที่เป็นมิตรกับโลก ประหยัดพลังงานการผลิต แถมใช้น้อยลง ก็ช่วยลดจำนวนถังสีที่เป็นขยะพลาสติกได้ด้วย เห็นไหมล่ะครับ ว่าคุ้มค่า ประหยัดแค่ไหน ถ้าเลือกใช้ สีเดลต้าชิลชิลด์
สุดท้ายนี้ ถ้าหากกำลังมองหาสีทาบ้าน เดลูต้าอยากให้ทุกคนคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสำคัญ เลือกสีทาบ้านให้ตอบโจทย์กับบ้าน ให้ความคุ้มค่า ประหยัด และมีคุณภาพ เพื่อให้สีบ้านสวย ติดทนนาน ถ้าครั้งเดียวอยู่ได้หลาย ๆ ปี ไม่ต้องทาซ้ำ ๆ จะดีที่สุดนะครับ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากได้คำปรึกษา ทักมาหาเดลูต้าได้เลยนะครับ
Line : @Deltapaint หรือ คลิกที่นี่