สีทาบ้าน
20 พฤษภาคม 2563

สรุปโดยเดลูต้า

  • สีทาบ้านมีวันหมดอายุ เก็บได้ประมาณ 5-10 ปี
  • ดูได้จากบาร์โค้ดข้างกระป๋อง ที่ระบุวันที่ผลิต Lot ที่ผลิต
  • สีหมดอายุจะมีกลิ่นบูด จับตัวเป็นก้อน แยกตัวออกจากกัน
  • หากสีเหลือ ควรเก็บในอุณหภูมิห้องปกติ อย่าให้ใกล้ความร้อน
  • ควรคำนวณปริมาณสีทุกครั้ง ก่อนใช้งานให้เพียงพอกับการใช้งานจริง
  • หากต้องการทิ้งสี ห้ามเทลงท่อระบาย หรือทิ้งเป็นขยะทั่วไป เพราะสีทาบ้านเป็นขยะอันตราย

ซื้อสีทาบ้านมา แต่ใช้ไม่หมด จะเก็บไว้ใช้ต่อยังไงดี ถ้าเก็บแล้วสีจะหมดอายุมั้ย ? คงเป็นคำถามที่หลายคนกังวลใจ เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันดีกว่าครับ
สีทาบ้านมีวันหมดอายุหรือไม่ ?
สีทาบ้านเมื่อซื้อมาแล้ว มักจะไม่มีบอกวันหมดอายุเหมือนสินค้าทั่ว ๆ ไป บอกก็แค่เพียงวันที่ผลิตเท่านั้น ทำให้หลายคนมักสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว สีที่ซื้อมา ถ้าใช้ไม่หมดเก็บไว้ จะหมดอายุไหม คำตอบ คือ สีมีวันหมดอายุ แต่ที่สงสัยต่อไปอีก แล้วสีที่หมดอายุมันเป็นยังไง เราไปดูกันว่า สีทาบ้าน มีอายุกี่ปี (ถ้ายังไม่ใช้ทา) มีวิธีเช็คยังไง และมีวิธีรักษาสีที่เหลือใช้ยังไง ให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้
ประเภทของสีทาบ้าน

สีทาบ้าน
สีทาบ้านมีหลายชนิด หลายแบบ แต่ที่เรามักนำมาใช้ในงานก่อสร้างเป็นหลัก จะแบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ
• สีน้ำอะคริลิค
เป็นสีที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี เป็นสีน้ำพลาสติกที่ผลิตจากลาเท็กซ์ พีวีเอซี โคพอลิเมอร์ และใช้น้ำเป็นตัวทำละลายให้เจือจาง เหมาะสำหรับงานพื้นผิวปูน คอนกรีตทั่วไป อิฐ กระเบื้องแผ่นเรียบ คุณสมบัติของสีน้ำอะคริลิค คือ มีเนื้อสีมาก ต้านทานเชื้อราได้ดี ซึ่งสีน้ำอะคริลิค หากแบ่งตามการใช้งาน ก็คือ สำหรับทาภายนอกและภายใน โดยแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติต่างกันออกไปอีก ยกตัวอย่าง สีทาภายนอก จำเป็นต้องมีคุณสมบัติทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าสีทาภายใน ส่วนสีทาภายใน จะต้องเป็นสีที่ทนทานต่อเชื้อรา เช็ดล้างได้ง่าย นั่นเองครับ
• สีน้ำมัน
สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ผลิตจากอัลขีดเรซิน ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลายให้เจือจาง เหมาะสำหรับงานทาไม้ ทาเหล็ก แต่ก็สามารถใช้กับพื้นผิวปูน ผิวคอนกรีตได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นของสีน้ำมัน คือ ทำให้พื้นผิวมีความเงาสวย และทำความสะอาดง่าย ข้อเสียคือ แห้งช้า ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง นั่นเองครับ

สีทาบ้าน

วีธีดูวันหมดอายุของสีทาบ้าน

• สีน้ำอะคริลิค
การดูวันหมดอายุของสีน้ำอะคริลิค สามารถดูได้จากบาร์โค้ดที่ติดข้างกระป๋องสี ที่ระบุวันที่ผลิต, Lot ที่ผลิต ฯลฯ ซึ่งสภาพการจัดเก็บปกติ สามารถเก็บได้ 5-10 ปี นับจากวันที่ผลิตเลยทีเดียวครับ
• สีน้ำมัน
การดูวันหมดอายุของสี ดูได้จากบาร์โค้ดที่ติดข้างกระป๋องสี ที่ระบุวันที่ผลิต, Lot ที่ผลิต ฯลฯ เช่นเดียวกับสีน้ำอะคริลิคครับ แต่สีน้ำมัน มีการผลิตหลักมาจากแม่สีและสารละลายทางเคมี อาจจะไม่มีวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ครับ หรือโดยสภาพการจัดเก็บปกติ สีน้ำมันสามารถเก็บสินค้าได้ 5-10 ปี นับจากวันที่ผลิต

สีทาบ้าน

สังเกตยังไงว่า สีหมดอายุ ?
• สีน้ำอะคริลิค
แนะนำว่าให้ดูจากลักษณะสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม
– มีกลิ่นเหม็น กลิ่นบูด แสดงว่าหมดอายุแน่นอน อย่านำมาใช้นะครับ
– สีมีลักษณะเป็นก้อนๆ เป็นเจล
– เวลาคนสี หยดสีไม่มีความเรียบลื่น แยกตัวออกจากกัน
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีลักษณะตามที่บอก สีนั้นก็สามารถนำมาใช้งานได้ตามปกติครับ
• สีน้ำมัน
– สีจับตัวเป็นก้อนแข้ง
– เมื่อคนสีแล้ว สีไม่เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ถ้าดูแล้วมีลักษณะตามที่บอก แสดงว่าสีหมดอายุ ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้นะครับ

สีทาบ้าน

สีทาบ้าน

วิธีการเก็บรักษาสีทาบ้านที่เหลือใช้

สีน้ำอะคริลิค
– สีที่เหลือใช้ต้องไม่มีการผสมน้ำ หรือหากมีการผสมน้ำแล้ว แนะนำว่าควรใช้ให้หมดจะดีที่สุด
– ควรปิดฝาถังให้สนิทที่สุด ไม่ให้มีอากาศหรือลมเข้าไป
– เก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม หรือ ให้เก็บในที่ร่มไม่โดนความร้อนและแสงจัด จะสามารถทำให้สีอยู่ได้นานขึ้นครับ
เคล็ดลับจากเดลูต้า
ในการเก็บรักษาสีน้ำที่ใช้แล้ว ให้ใช้น้ำสะอาดเทลงไปเบาๆ ให้อยู่บนหน้าของสีประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สีแห้ง แต่ต้องทำให้เบาที่สุดนะครับ อย่าให้น้ำลงไปผสมกับเนื้อสี หากผู้รับเหมา หรือ เจ้าของบ้านจะนำสีกลับมาใช้งาน ให้เทน้ำส่วนนี้บนที่ใส่ไว้ออกก่อน แล้วค่อยใช้งานตามปกติครับ
• สีน้ำมัน
สีน้ำมัน ที่เปิดใช้งานแล้ว เมื่อกลับมาเปิดใช้ใหม่ภายหลัง เราจะพบผิวบนของน้ำสีแห้งเป็นพังพืด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบเจอกัน ดังนั้น ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องการแห้งตัวของสีน้ำมันกันก่อนดีกว่าครับ
สีน้ำมันทั่วไปที่เราๆใช้กัน เป็นสีน้ำมันอัลขีด (Alkyd Resin Enamel) จะแห้งตัวโดยทำปฏิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ หากเปิดใช้แล้วปิดเก็บไว้ เมื่อนำกลับมาเปิดใช้ใหม่ สีที่เหลือ ผิวบนจะทำปฏิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ (ในกระป๋อง) จึงแห้งผิวเฉพาะผิวด้านบน ส่วนน้ำสีด้านล่างที่ไม่สัมผัสอ๊อกซิเจนในอากาศ ก็จะยังคงสภาพเหลวปกติอยู่เช่นเดิม (แห้งแข็งเฉพาะเฉพาะผิวบน น้ำสีข้างล่างไม่แข็งตัว)
หากจะนำสีที่เหลือมาใช้ใหม่ ให้ทำการค่อยๆ เลาะหรือลอกพังพืดออก จนแน่ใจว่าไม่มีเศษฟิล์มสีที่แห้งหลงเหลืออยู่ และทางที่ดีควรจะทำการกรองน้ำสีด้วยผ้าป่าน หรือกระชอนให้ละเอียดก่อนครับ เพราะหากมีเศษพังพืดเหลืออยู่หลังการเลาะลอก ตกลงไปปนในน้ำสีชั้นล่าง เวลานำสีไปทา จะมีเศษสีที่แห้งเหล่านั้นไปติดอยู่บนชิ้นงาน ทำให้ฟิล์มสีที่ทาไม่เรียบและไม่สวยงามนั่นเอง
เคล็ดลับจากเดลูต้า
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมอีก การเก็บรักษาสีน้ำมันที่เหลือใช้ ให้เทน้ำมันสนลงไปเบาๆ ให้น้ำมันลอยอยู่เหนือเนื้อสีราว 2 เซนติเมตร และเก็บให้พ้นจากความร้อน แสง และประกายไฟ เวลาจะนำกลับมาใช้งานให้เทน้ำมันสนด้านหน้าออกก่อน แล้วจึงใช้งานได้ตามปกติครับ

สีทาบ้าน

สีทาบ้านเหลือ จัดการยังไง ให้ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
1.คำนวณปริมาณ ก่อนซื้อสีทาบ้านทุกครั้ง
ทางที่ดีแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจซื้อสี ให้คำนวณปริมาณสีทั้งหมดที่จะใช้งานจริงก่อนครับ เพราะถ้าเราซื้อในปริมาณที่เพียงพอใกล้เคียงกับจำนวนใช้งานจริง ก็จะยิ่งทำให้ประหยัดเงินได้มากขึ้น ไม่ต้องซื้อมาเหลือใช้ แถมยังได้ช่วยลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกอีกด้วยครับ
2.เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ อย่าใกล้ความร้อน
ถ้าสีเหลือเยอะให้ใส่ไว้ในถังปกติและเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่ต้องระวังไม่ให้กระป๋องสีถูกแสงแดดจัด หรือความร้อน และควรเก็บให้พ้นมือเด็กด้วยนะครับ แต่ถ้าสีที่เหลือไม่มากนัก อาจเทสีที่เหลือเก็บไว้ในขวดแก้วที่ล้างสะอาด เก็บไว้ในที่แห้งและปลอดภัยก็สามารถทำได้ครับ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน
3.แบ่งปันให้กับชุมชนหรือโรงเรียนใกล้บ้าน
ถ้าสีเหลือ และคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้วจริง ๆ ลองนำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน คนใกล้ตัว หรือนำไปมอบให้กับชุมชน โรงเรียนใกล้บ้านก็ได้นะครับ เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมงานก่อสร้างที่สีมีความชำรุด หลุดล่อน เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ได้มากเลยล่ะครับ ดีกว่านำมาเก็บไว้จนสีหมดอายุและใช้งานไม่ได้ในที่สุด
4. หากจะทิ้ง ห้ามเทสีที่เหลือลงอ่างล้างจาน ท่อระบายน้ำ หรือทิ้งเป็นขยะทั่วไป
ข้อนี้สำคัญมากครับ ห้ามเทสีที่เหลือลงในอ่างล้างจาน ท่อระบายน้ำ หรือนำไปทิ้งเป็นขยะทั่วไปเด็ดขาดครับ เพราะสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สารเคมีอันตราย และต้องมีการกำจัดอย่างปลอดภัย ทางที่ดี หากมีความจำเป็นต้องทิ้ง ควรรวบรวมใส่ถุงหรือกล่องกระดาษให้เรียบร้อย พร้อมเขียนหน้าถุงขยะว่าอันตราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ นำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี ไม่ทำให้สารพิษปนเปื้อนดิน และส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเองครับ
คลายสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับ ต่อไปนี้ หากสีทาบ้านเหลือใช้ เก็บไว้รักษาไว้ให้ดีนะครับ แต่ทางที่ดี แนะนำว่า คำนวณพื้นที่ที่จะทาและซื้อสีในปริมาณที่เพียงพอจะดีที่สุด เพื่อช่วยประหยัดค่าสี และยังเป็นการช่วยลดขยะที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วยครับ
ใครอยากปรึกษาปัญหาสีทาบ้าน หรือ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สีเดลต้า ทักมาพูดคุยกับเดลูต้าได้ที่ Line: @Deltapaint หรือ

Categories: ประหยัดกว่าPublished On: 20 พฤษภาคม 2563

สรุปโดยเดลูต้า

  • สีทาบ้านมีวันหมดอายุ เก็บได้ประมาณ 5-10 ปี
  • ดูได้จากบาร์โค้ดข้างกระป๋อง ที่ระบุวันที่ผลิต Lot ที่ผลิต
  • สีหมดอายุจะมีกลิ่นบูด จับตัวเป็นก้อน แยกตัวออกจากกัน
  • หากสีเหลือ ควรเก็บในอุณหภูมิห้องปกติ อย่าให้ใกล้ความร้อน
  • ควรคำนวณปริมาณสีทุกครั้ง ก่อนใช้งานให้เพียงพอกับการใช้งานจริง
  • หากต้องการทิ้งสี ห้ามเทลงท่อระบาย หรือทิ้งเป็นขยะทั่วไป เพราะสีทาบ้านเป็นขยะอันตราย

ซื้อสีทาบ้านมา แต่ใช้ไม่หมด จะเก็บไว้ใช้ต่อยังไงดี ถ้าเก็บแล้วสีจะหมดอายุมั้ย ? คงเป็นคำถามที่หลายคนกังวลใจ เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันดีกว่าครับ
สีทาบ้านมีวันหมดอายุหรือไม่ ?
สีทาบ้านเมื่อซื้อมาแล้ว มักจะไม่มีบอกวันหมดอายุเหมือนสินค้าทั่ว ๆ ไป บอกก็แค่เพียงวันที่ผลิตเท่านั้น ทำให้หลายคนมักสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว สีที่ซื้อมา ถ้าใช้ไม่หมดเก็บไว้ จะหมดอายุไหม คำตอบ คือ สีมีวันหมดอายุ แต่ที่สงสัยต่อไปอีก แล้วสีที่หมดอายุมันเป็นยังไง เราไปดูกันว่า สีทาบ้าน มีอายุกี่ปี (ถ้ายังไม่ใช้ทา) มีวิธีเช็คยังไง และมีวิธีรักษาสีที่เหลือใช้ยังไง ให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้
ประเภทของสีทาบ้าน

สีทาบ้าน
สีทาบ้านมีหลายชนิด หลายแบบ แต่ที่เรามักนำมาใช้ในงานก่อสร้างเป็นหลัก จะแบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ
• สีน้ำอะคริลิค
เป็นสีที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี เป็นสีน้ำพลาสติกที่ผลิตจากลาเท็กซ์ พีวีเอซี โคพอลิเมอร์ และใช้น้ำเป็นตัวทำละลายให้เจือจาง เหมาะสำหรับงานพื้นผิวปูน คอนกรีตทั่วไป อิฐ กระเบื้องแผ่นเรียบ คุณสมบัติของสีน้ำอะคริลิค คือ มีเนื้อสีมาก ต้านทานเชื้อราได้ดี ซึ่งสีน้ำอะคริลิค หากแบ่งตามการใช้งาน ก็คือ สำหรับทาภายนอกและภายใน โดยแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติต่างกันออกไปอีก ยกตัวอย่าง สีทาภายนอก จำเป็นต้องมีคุณสมบัติทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าสีทาภายใน ส่วนสีทาภายใน จะต้องเป็นสีที่ทนทานต่อเชื้อรา เช็ดล้างได้ง่าย นั่นเองครับ
• สีน้ำมัน
สีน้ำมันหรือสีเคลือบเงา ผลิตจากอัลขีดเรซิน ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลายให้เจือจาง เหมาะสำหรับงานทาไม้ ทาเหล็ก แต่ก็สามารถใช้กับพื้นผิวปูน ผิวคอนกรีตได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นของสีน้ำมัน คือ ทำให้พื้นผิวมีความเงาสวย และทำความสะอาดง่าย ข้อเสียคือ แห้งช้า ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง นั่นเองครับ

สีทาบ้าน

วีธีดูวันหมดอายุของสีทาบ้าน

• สีน้ำอะคริลิค
การดูวันหมดอายุของสีน้ำอะคริลิค สามารถดูได้จากบาร์โค้ดที่ติดข้างกระป๋องสี ที่ระบุวันที่ผลิต, Lot ที่ผลิต ฯลฯ ซึ่งสภาพการจัดเก็บปกติ สามารถเก็บได้ 5-10 ปี นับจากวันที่ผลิตเลยทีเดียวครับ
• สีน้ำมัน
การดูวันหมดอายุของสี ดูได้จากบาร์โค้ดที่ติดข้างกระป๋องสี ที่ระบุวันที่ผลิต, Lot ที่ผลิต ฯลฯ เช่นเดียวกับสีน้ำอะคริลิคครับ แต่สีน้ำมัน มีการผลิตหลักมาจากแม่สีและสารละลายทางเคมี อาจจะไม่มีวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ครับ หรือโดยสภาพการจัดเก็บปกติ สีน้ำมันสามารถเก็บสินค้าได้ 5-10 ปี นับจากวันที่ผลิต

สีทาบ้าน

สังเกตยังไงว่า สีหมดอายุ ?
• สีน้ำอะคริลิค
แนะนำว่าให้ดูจากลักษณะสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม
– มีกลิ่นเหม็น กลิ่นบูด แสดงว่าหมดอายุแน่นอน อย่านำมาใช้นะครับ
– สีมีลักษณะเป็นก้อนๆ เป็นเจล
– เวลาคนสี หยดสีไม่มีความเรียบลื่น แยกตัวออกจากกัน
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีลักษณะตามที่บอก สีนั้นก็สามารถนำมาใช้งานได้ตามปกติครับ
• สีน้ำมัน
– สีจับตัวเป็นก้อนแข้ง
– เมื่อคนสีแล้ว สีไม่เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
ถ้าดูแล้วมีลักษณะตามที่บอก แสดงว่าสีหมดอายุ ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้นะครับ

สีทาบ้าน

สีทาบ้าน

วิธีการเก็บรักษาสีทาบ้านที่เหลือใช้

สีน้ำอะคริลิค
– สีที่เหลือใช้ต้องไม่มีการผสมน้ำ หรือหากมีการผสมน้ำแล้ว แนะนำว่าควรใช้ให้หมดจะดีที่สุด
– ควรปิดฝาถังให้สนิทที่สุด ไม่ให้มีอากาศหรือลมเข้าไป
– เก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม หรือ ให้เก็บในที่ร่มไม่โดนความร้อนและแสงจัด จะสามารถทำให้สีอยู่ได้นานขึ้นครับ
เคล็ดลับจากเดลูต้า
ในการเก็บรักษาสีน้ำที่ใช้แล้ว ให้ใช้น้ำสะอาดเทลงไปเบาๆ ให้อยู่บนหน้าของสีประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้สีแห้ง แต่ต้องทำให้เบาที่สุดนะครับ อย่าให้น้ำลงไปผสมกับเนื้อสี หากผู้รับเหมา หรือ เจ้าของบ้านจะนำสีกลับมาใช้งาน ให้เทน้ำส่วนนี้บนที่ใส่ไว้ออกก่อน แล้วค่อยใช้งานตามปกติครับ
• สีน้ำมัน
สีน้ำมัน ที่เปิดใช้งานแล้ว เมื่อกลับมาเปิดใช้ใหม่ภายหลัง เราจะพบผิวบนของน้ำสีแห้งเป็นพังพืด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พบเจอกัน ดังนั้น ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องการแห้งตัวของสีน้ำมันกันก่อนดีกว่าครับ
สีน้ำมันทั่วไปที่เราๆใช้กัน เป็นสีน้ำมันอัลขีด (Alkyd Resin Enamel) จะแห้งตัวโดยทำปฏิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ หากเปิดใช้แล้วปิดเก็บไว้ เมื่อนำกลับมาเปิดใช้ใหม่ สีที่เหลือ ผิวบนจะทำปฏิกริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ (ในกระป๋อง) จึงแห้งผิวเฉพาะผิวด้านบน ส่วนน้ำสีด้านล่างที่ไม่สัมผัสอ๊อกซิเจนในอากาศ ก็จะยังคงสภาพเหลวปกติอยู่เช่นเดิม (แห้งแข็งเฉพาะเฉพาะผิวบน น้ำสีข้างล่างไม่แข็งตัว)
หากจะนำสีที่เหลือมาใช้ใหม่ ให้ทำการค่อยๆ เลาะหรือลอกพังพืดออก จนแน่ใจว่าไม่มีเศษฟิล์มสีที่แห้งหลงเหลืออยู่ และทางที่ดีควรจะทำการกรองน้ำสีด้วยผ้าป่าน หรือกระชอนให้ละเอียดก่อนครับ เพราะหากมีเศษพังพืดเหลืออยู่หลังการเลาะลอก ตกลงไปปนในน้ำสีชั้นล่าง เวลานำสีไปทา จะมีเศษสีที่แห้งเหล่านั้นไปติดอยู่บนชิ้นงาน ทำให้ฟิล์มสีที่ทาไม่เรียบและไม่สวยงามนั่นเอง
เคล็ดลับจากเดลูต้า
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมอีก การเก็บรักษาสีน้ำมันที่เหลือใช้ ให้เทน้ำมันสนลงไปเบาๆ ให้น้ำมันลอยอยู่เหนือเนื้อสีราว 2 เซนติเมตร และเก็บให้พ้นจากความร้อน แสง และประกายไฟ เวลาจะนำกลับมาใช้งานให้เทน้ำมันสนด้านหน้าออกก่อน แล้วจึงใช้งานได้ตามปกติครับ

สีทาบ้าน

สีทาบ้านเหลือ จัดการยังไง ให้ปลอดภัย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
1.คำนวณปริมาณ ก่อนซื้อสีทาบ้านทุกครั้ง
ทางที่ดีแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจซื้อสี ให้คำนวณปริมาณสีทั้งหมดที่จะใช้งานจริงก่อนครับ เพราะถ้าเราซื้อในปริมาณที่เพียงพอใกล้เคียงกับจำนวนใช้งานจริง ก็จะยิ่งทำให้ประหยัดเงินได้มากขึ้น ไม่ต้องซื้อมาเหลือใช้ แถมยังได้ช่วยลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกอีกด้วยครับ
2.เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ อย่าใกล้ความร้อน
ถ้าสีเหลือเยอะให้ใส่ไว้ในถังปกติและเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่ต้องระวังไม่ให้กระป๋องสีถูกแสงแดดจัด หรือความร้อน และควรเก็บให้พ้นมือเด็กด้วยนะครับ แต่ถ้าสีที่เหลือไม่มากนัก อาจเทสีที่เหลือเก็บไว้ในขวดแก้วที่ล้างสะอาด เก็บไว้ในที่แห้งและปลอดภัยก็สามารถทำได้ครับ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน
3.แบ่งปันให้กับชุมชนหรือโรงเรียนใกล้บ้าน
ถ้าสีเหลือ และคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้วจริง ๆ ลองนำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน คนใกล้ตัว หรือนำไปมอบให้กับชุมชน โรงเรียนใกล้บ้านก็ได้นะครับ เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมงานก่อสร้างที่สีมีความชำรุด หลุดล่อน เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ได้มากเลยล่ะครับ ดีกว่านำมาเก็บไว้จนสีหมดอายุและใช้งานไม่ได้ในที่สุด
4. หากจะทิ้ง ห้ามเทสีที่เหลือลงอ่างล้างจาน ท่อระบายน้ำ หรือทิ้งเป็นขยะทั่วไป
ข้อนี้สำคัญมากครับ ห้ามเทสีที่เหลือลงในอ่างล้างจาน ท่อระบายน้ำ หรือนำไปทิ้งเป็นขยะทั่วไปเด็ดขาดครับ เพราะสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สารเคมีอันตราย และต้องมีการกำจัดอย่างปลอดภัย ทางที่ดี หากมีความจำเป็นต้องทิ้ง ควรรวบรวมใส่ถุงหรือกล่องกระดาษให้เรียบร้อย พร้อมเขียนหน้าถุงขยะว่าอันตราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ นำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี ไม่ทำให้สารพิษปนเปื้อนดิน และส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเองครับ
คลายสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับ ต่อไปนี้ หากสีทาบ้านเหลือใช้ เก็บไว้รักษาไว้ให้ดีนะครับ แต่ทางที่ดี แนะนำว่า คำนวณพื้นที่ที่จะทาและซื้อสีในปริมาณที่เพียงพอจะดีที่สุด เพื่อช่วยประหยัดค่าสี และยังเป็นการช่วยลดขยะที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วยครับ
ใครอยากปรึกษาปัญหาสีทาบ้าน หรือ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สีเดลต้า ทักมาพูดคุยกับเดลูต้าได้ที่ Line: @Deltapaint หรือ

ชอบบทความนี้แชร์เลย